เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Preventive Maintenance กับ Overhaul: เข้าใจให้ชัดก่อนวางแผนซ่อมบำรุงในโรงงานอุตสาหกรรม

ในการบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรม “การบำรุงรักษาเครื่องจักร” คือกุญแจสำคัญของการผลิตอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ หากขาดการดูแล เครื่องจักรอาจเกิดความเสียหาย ส่งผลต่อกำลังการผลิตและต้นทุนที่สูงขึ้น

สองแนวทางหลักที่ใช้ในการดูแลเครื่องจักร ได้แก่ Preventive Maintenance (PM) และ Overhaul หลายคนอาจยังสับสนว่าแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะอธิบายให้ชัด พร้อมแนะแนวทางการเลือกใช้อย่างเหมาะสม

 Preventive Maintenance (PM): การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน

Preventive Maintenance คือการดูแลเครื่องจักรตามรอบระยะเวลา โดยไม่รอให้เกิดปัญหา เพื่อป้องกันความเสียหายล่วงหน้า

ตัวอย่างการทำ PM:

• เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

• ตรวจเช็กสภาพสายพาน

• ทำความสะอาดฟิลเตอร์

• ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและอุณหภูมิการทำงาน

ข้อดีของ Preventive Maintenance:

• ลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุขัดข้องกระทันหัน

• ยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร

• วางแผนการผลิตและงบประมาณได้แม่นยำ

• ลดต้นทุนรวมในการซ่อมบำรุงระยะยาว

  เหมาะกับ: เครื่องจักรที่ใช้งานประจำ และมีผลกระทบสูงหากหยุดการทำงาน

 Overhaul: การซ่อมใหญ่ รื้อทำใหม่

Overhaul คือกระบวนการถอดชิ้นส่วนเครื่องจักรเพื่อตรวจสอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอะไหล่ภายในที่เสื่อมสภาพ มักทำเมื่อเครื่องเริ่มมีประสิทธิภาพลดลง หรือถึงอายุการใช้งานที่ต้องรื้อซ่อม

ตัวอย่างการ Overhaul:

• รื้อปั๊มเพื่อเปลี่ยนลูกปืนและซีล

• รื้อ Blower เพื่อตรวจสอบเพลาและบาลานซ์ใบพัด

• ตรวจสภาพมอเตอร์ และเปลี่ยนชิ้นส่วนภายใน

ข้อดีของ Overhaul:

• คืนประสิทธิภาพเครื่องจักรให้เหมือนใหม่

• ลดโอกาสเกิดเหตุขัดข้องในระยะยาว

• วางแผนหยุดไลน์ผลิตได้ล่วงหน้า ลดผลกระทบต่อการผลิต

  เหมาะกับ: เครื่องจักรที่ทำงานหนักและมีสัญญาณความเสื่อม เช่น เสียงผิดปกติ ความร้อนสูง หรือรั่วซึม

สรุป: ควรเลือกใช้แบบไหน?